สมัยก่อนห้องน้ำของคนไทยมักจะมีห้องน้ำแบบห้องเดียวก็คือ ห้องน้ำแบบเปียก ทำให้เวลาใช้งาน หรืออาบน้ำก็จะมักจะทำให้พื้นที่ในห้องน้ำทั้งหมดเปียกไปหมด แต่ในปัจจุบันคนไทยนิยมใช้ห้องน้ำแบบแบ่งโซนเปียก และโซนแห้งมากขึ้น ทำให้กระจกกั้นห้องน้ำ หรือฉากกั้นห้องน้ำเริ่มเข้ามามีความสำคัญมากขึ้น มีวัสดุให้เลือกให้หลากหลาย และมีการจัดวางที่หลายรูปแบบมากขึ้น เราจึงจะมาอธิบายเกี่ยวกับการเลือกกระจกกั้นห้องน้ำ หรือฉากกั้นห้องน้ำให้เหมาะสมกับบ้าน และพื้นที่ต้องคุณมาให้อ่านกันค่ะ
กระจกกั้นห้องน้ำ หรือฉากกั้นห้องน้ำ คืออะไร
ฉากกั้นห้องน้ำ ก็คือฉากส่วนที่ใช้แยกระหว่างห้องน้ำส่วนที่ใช้อาบน้ำ (เรียกว่าห้องน้ำส่วนเปียก) และส่วนของห้องสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า (หรือเรียกว่า ห้องน้ำส่วนแห้ง) ซึ่งการแบ่งแยกห้องน้ำเป็นสัดส่วนชัดเจนแบบนี้ จะทำให้มีข้อดีดังนี้
ข้อดีของกระจกกั้นห้องน้ำ
- ช่วยเพิ่มให้ห้องน้ำมีสัดส่วน สวยงาม สามารถออกแบบ และตกแต่งห้องน้ำได้ง่ายขึ้น
- ช่วยเพิ่มความปลอดภัยเวลาใช้งานได้ โดยเฉพาะอุบัติเหตุลื่นล้มจากปัญหาพื้นลื่น เพราะห้องน้ำมีการแบ่งแบ่งส่วนแห้งกับเปียกชัดเจน
- เพิ่มพื้นที่การใช้งานได้ดี ให้ความรู้สึกว่าห้องน้ำกว้างขึ้น
- ทำความสะอาดง่าย เพราะน้ำจากส่วนเปียกไม่กระเด็นออกมา
ข้อเสียของกระจกกั้นห้องน้ำ
- อาจจะไม่เหมาะกับห้องน้ำที่มีขนาดเล็กมากๆ เพราะยิ่งทำฉากกั้นก็จะยิ่งทำให้ใช้งานลำบาก
- เพิ่มค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง และบำรุงรักษา
- ต้องเลือกชนิดของกระจกกั้นห้องน้ำ หรือ ฉากกั้นห้องน้ำให้ถูกต้อง เพราะหากเลือกผิดประเภทอาจจะทำให้ก่อเกิดความเสียหาย ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บ และเสียเงินค่าซ่อมบำรุง
ประเภทของกระจกกั้นห้องน้ำ และฉากกั้นห้องน้ำ
สำหรับกระจกกั้นห้องน้ำนั้นก็ถูกแบ่งออก 5 ประเภทใหญ่ๆ ตามวัสดุที่นำมาใช้งาน ดังต่อไปนี้
ฉากกั้นห้องน้ำแบบม่าน
ฉากกั้นประเภทนี้มักจะมีราคาถูก มีให้เลือกหลากหลายสีและลวดลาย ใช้งานง่ายเพียงแต่ดึงรูดม่านชนิดกันน้ำมาปิดตอนอาบน้ำ แต่ว่าฉากกั้นประเภทนี้จะไม่สามารถกันน้ำกระเด็นออกไปได้ 100 % อาจจะมีกระเด็น ซึม และรั่วออกไปบ้างหากม่านเปิด หลังอาบน้ำต้องเช็ดให้แห้ง เพราะหากโดนความชื้นบ่อยๆ มักจะเป็นเชื้อราง่ายต้องหมั่นรักษาความสะอาด
ฉากกั้นห้องน้ำพลาสติก
ฉากกั้นประเภทนี้จะมีราคาที่ขยับสูงมากกว่าม่านนิดหน่อย สามารถใช้งานง่ายเช่นกัน มีให้เลือกหลากหลายสี และหลากหลายแบบ ทั้งแบบ ไม่ว่าแบบโปร่งแสง ทึบแสง สีสันต่างๆ แบบบานพับและประตูเลื่อน มีน้ำหนักเบา แข็งแรงทนทานระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องหมั่นน้ำความสะอาดบ่อยๆ เพราะสามารถเกิดเชื้อราสะสมได้เห็นเดียวกับม่านพลาสติก
กระจกกั้นห้องน้ำแบบอะคริลิค
จุดเด่นของกระจกกั้นห้องน้ำแบบอะคริลิคคือ มีน้ำหนักเบา ใช้งานง่าย ราคาไม่แพง และทนต่อความชื้น ลดการเกิดเชื้อราได้เยอะกว่าแบบพลาสติก เนื้อเหนียวใช้งานได้อย่างยาวนาน แต่ผิวกระจกจะไม่ได้ใสกิ๊งแบบกระจก และหากเกิดคราบควรทำความสะอาดทันที เพราะหากปล่อยไว้นานจะเป็นคราบสะสม
กระจกกั้นห้องน้ำแบบนิรภัย
ส่วนใหญ่กระจกที่ใช้นำมากั้นห้องน้ำมักจะเป็นกระจกเทมเปอร์ หรือกระจกนิรภัย ซึ่งมีความหนา แข็งแรงทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน ทนรอยขีดข่วน ทำความสะอาดง่าย และช่วยทำให้ห้องน้ำมีความสวยงาม ทันสมัย ไม่เป็นเชื้อรา แต่ว่าการใช้งานยังไงก็ต้องระมัดระวังการกระแทกแรงๆ เพราะถึงแม้จะเป็นกระจกนิรภัยที่แข็งแรงพิเศษ แต่หากแตกขึ้นมาก็จะทำให้เกิดเศษกระจกเล็กๆ ที่ทำให้เกิดความเสียหายได้
กระจกกั้นห้องน้ำแบบลามิเนต
ข้อดีของกระจกลามิเนตก็คือเป็นกระจกที่ทนทานต่อการใช้งานได้ดี ทนรอยขูดขีด ทนทานต่อความร้อน ทนต่อแรงกระแทก และมีความปลอดภัยสูงกว่ากระจก เพราะหากกระจกลามิเนตได้รับความเสียหายจนแตกออกมา เศษกระจกจะไม่ร่วงหล่นลงมา ซึ่งช่วยลดอัตราการบาดเจ็บ และอันตรายได้ดีกว่ากระจกนิรภัย
กระจกกั้นห้องน้ำแบบไหนที่เหมาะกับคุณ
หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกับประเภทของวัสดุที่นำมากั้นห้องน้ำแล้ว ต่อไปก็จะเป็นส่วนของชนิดของกระจก-ฉากกั้นห้องน้ำแล้วว่ามีรูปแบบการออกแบบอย่างไร และแบบไหนที่เหมาะสมกับบ้านของคุณมากที่สุด
กระจกห้องน้ำแบบติดถาวร
หมายถึงรูปแบบการออกแบบแบบทั่วไป คือการสร้างผนังกระจกกั้นแบบติดถาวร ไม่มีประตู มีเพียงช่องสำหรับเดินไปลงอาบน้ำเท่านั้น ไม่สามารถออกแบบ หรือเพิ่มลูกเล่นอื่นๆ ได้อีก ข้อดีคือเวลาสร้างสามารถคุมงบประมาณได้ดี ห้องน้ำเล็กก็ทำได้ข้อเสียก็คือ เป็นการกั้นแบ่งสัดส่วนห้องน้ำเท่านั้น เวลาอาบน้ำ ก็อาจจะมีส่วนที่น้ำกระเด็น และไหลออกมาพื้นส่วนแห้งได้อยู่ดี
กระจกห้องน้ำแบบบานเปิด
รูปแบบการกั้นชนิดนี้ จะเป็นการทำฉากกั้นห้องน้ำแบ่งโซนเปียกกับแห้งชัดเจน การเข้าไปใช้พื้นที่เปียกก็คือมีประตูบานเปิดที่ใช้ดันเข้า หรือดันออก หรือจะเปิดพร้อมกันสองบานก็ได้ ข้อดีคือ ติดตั้งง่าย ราคาไม่แพง เวลาใช้งานพื้นที่ส่วนเปียกน้ำจะไม่ไหลออกไปด้านนอก ทำให้แยกพื้นที่ชัดเจนไม่ต้องไปเช็ดหลังอาบน้ำ แต่ข้อเสียคือ ใช้พื้นที่เปลือง เพราะต้องมีพื้นที่พอให้เปิดประตูเข้า-ออก ทำให้เหลือพื้นที่การใช้งานน้อยลง และไม่เหมาะกับบ้านที่มีห้องน้ำเล็กๆ
กระจกห้องน้ำแบบบานเลื่อน
ถือเป็นกระจกกั้นห้องน้ำที่นิยมใช้มากที่สุดในครัวเรือน เพราะว่าใช้งานง่าย ช่วยประหยัดพื้นที่ห้องน้ำ เพราะว่าใช้วิธีเลื่อนเปิด-ปิดในขนาบแนวเดียวกัน ช่วยให้ห้องน้ำดูดี มีรสนิยม และช่วยแบ่งส่วนเปียกกับแห้งได้ดีเหมือนกัน เหมาะสำหรับห้องน้ำทุกขนาด แต่ข้อเสียของกระจกห้องน้ำแบบบานเลื่อนก็คือ เวลาติดตั้งมัจะมีค่าใช้จ่ายแพงกว่า และเวลาใช้ไปนานๆ กระจกกับช่องที่ใช้เลื่อนเข้าออกมักจะหลุดออกมา และต้องเสียค่าซ่อมบำรุงบ่อยๆ
กระจกกั้นห้องน้ำแบบเข้ามุม
เป็นการติดตั้งกระจกกั้นห้องน้ำโดยการติดตั้งที่มุมห้องน้ำ เวลาอาบน้ำก็จะอาบเฉพาะส่วนนั้น การติดตั้งชนิดนี้จะค่อนข้างตอบโจทยืด้านความสวยงาม เพราะจะทำให้ห้องน้ำดูมีความทันสมัย สามารถติดตั้งได้ทั้งบ้านที่มีห้องน้ำพื้นที่จำกัด และห้องน้ำกว้างๆ บานประตูสามารถติดตั้งได้ทั้งแบบบานเปิด และบานเลื่อน เรียกได้ว่าเป็นการติดตั้งที่มีความสะดวก และตอบโจทย์การใช้งานของเจ้าของบ้านมากที่สุด แต่ข้อเสียก็คือกระจกจะต้องออกแบบมาให้พอดีกับขนาดที่ต้องใช้ ต้องวัดไซซ์ความยาว ความกว้างให้ชัดเจน หากผิดก็ต้องสั่งตัดใหม่ ทำให้มีราคาสูงกว่ากระจกฉากกั้นทุกชนิด
อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้กระจกกั้นห้องน้ำ หรือฉากกั้นห้องน้ำนั้น ไม่ว่าจะเป็นวัสดุชนิดม่าน พลาสติก อะคริลิค หรือกระจก ก็ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการ และความคล่องตัวของการใช้จ่ายของเจ้าของบ้านเอง ว่าต้องการแบบไหนการเลือกสิ่งที่ดีเหมาะสมที่สุด และถูกใจถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก นอกจากนี้การออกแบบห้องน้ำ ควรนึกถึงการใช้งานเป็นหลักมากกว่าความสวยงาม ยกตัวอย่างเช่น ถึงแม้ว่าคุณจะอยากได้ห้องน้ำบานเปิด เพราะสวยถูกใจมากๆ แต่ว่าห้องน้ำของคุณมีพื้นที่จำกัด ก็อาจจะต้องมองข้าม และหาสิ่งที่เหมาะสมมากกว่า และใช้งานง่ายกว่าจะดีที่สุด