“รั้วบ้าน” ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยสร้างอาณาเขต และช่วยปกป้องคุณ และคนในครอบครัวให้ปลอดภัยจากบุคคลภายนอก เพราะก็มีกฎหมายรองรับว่า หากมีบุคคลภายนอกล่วงล้ำเข้ามาให้บริเวณบ้าน ก็ถือว่าเป็นภัยคุกคาม ที่สามารถแจ้งความข้อหาบุกรุกได้ ซึ่งหากบ้านของคุณไม่มีรั้วรอบขอบชิด ที่สามารถระบุพิกัดว่าบุคคลนั้นล่วงล้ำเข้ามา ก็อาจจะนำไปแจ้งความยาก
และนอกจากนี้ รั้วบ้านยังถือเป็นหน้าตาของเจ้าของบ้านอย่างหนึ่ง ซึ่งหากรั้วสวยก็ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ให้ตัวบ้านดูดี และเจ้าของบ้านก็ได้รับคำชมไปด้วย ดังนั้นการเลือกรั้วบ้านจึงไม่ให้การเลือกแบบส่งๆ แต่ควรเลือกรั้วบ้านที่สามารถบ่งบอกความเป็นตัวตนของเจ้าของบ้านได้ด้วย
รั้วบ้านเหล็กทำไมถึงเป็นที่นิยม
ในประเทศไทยในยุคก่อนการสร้างรั้วบ้าน อาจจะยังไม่เป็นที่นิยมในมากนัก เพราะในสมัยก่อนคนไทยมักจะมีความเอื้อเฟื้อ และสนิทกับคนรอบบ้าน ทุกบ้านมีความใกล้ชิดสนิทสนมกัน สามารถเดินไปมาหาสู่กันง่าย เท่าที่เห็นส่วนใหญ่ก็มักจะใช้วิธีปลูกต้นไม้ สร้างอาณาเขตของตัวบ้านเฉยๆ ต่อมาก็เริ่มมีการขยับมาใช้รั้วไม้เตี้ยๆ แต่ในสังคมปัจจุบันคนในสังคมไทย เริ่มมีความปัจเจกมากขึ้น รักความเป็นส่วนตัวมากขึ้น จึงทำให้เกิดความนิยมสร้างรั้วบ้านรวบบ้าน และใช้วัสดุที่ค่อนข้างแข็งแรงมากใช้มากขึ้น เช่น รั้วบ้านเหล็ก เป็นต้น และยังมีวัสดุชนิดอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น ดังนี้
1. รั้วบ้านเหล็ก
รั้วเหล็กเป็นวัสดุพื้นฐานที่หลายบ้านนิยมเลือกใช้ เพราะมีความโดดเด่นเรื่องของความแข็งแรงสูง ทนทานต่อสภาพอากาศร้อนได้ดี สามารถนำไปดัดแปลงเป็นรูปทรงรั้วบ้านได้หลายแบบ ทั้งรั้วเหล็กทึบ รั้วเหล็กโปร่ง และรั้วเหล็กดัด แต่ข้อเสียของรั้วเหล็กคือ ไม่ทนต่ออากาศชื้น เป็นสนิมง่าย และมีน้ำหนักเยอะ ไม่ค่อยเหมาะกับบ้านที่มีเด็ก และผู้สูงอายุ
2. รั้วสเตนเลส
ผลิตจากเหล็กกล้าไร้สนิม ที่มีคุณสมบัติเด่นๆ เลยคือ เกิดสลิมน้อยกว่าเหล็ก ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า ดูแลรักษาง่าย สามารถใช้น้ำยาทำความสะอาดเช็ดถูได้ มีน้ำหนักที่เบา แต่ส่วนใหญ่จะมีราคาแพงกว่าเหล็ก
3. รั้วอะลูมิเนียม
ผลิตจากอะลูมิเนียมคุณภาพสูง ทำให้มีน้ำหนักเบา เนื้อเหนียวไม่แตกหัก และบิดงอง่าย แต่ก็ยังสามารถนำมาดัดเป็นรูปทรงสวยงามได้ ทนทานต่อสภาพอากาศร้อน และชื้นได้ดีกว่าสเตนเลส และเหล็ก สามารถทาสี หรือพ่นสีที่ชอบลงไปได้ทุกเมื่อ ข้อเสียคือ ราคาแพงมากกว่าเหล็ก และสเตนเลส
4. รั้วอัลลอยด์
หรือภาษาช่างจะเรียกว่ารั้วเหล็กชุบ เป็นชนิดที่นิยมนำมาใช้ทำรั้วมากที่สุด เพราะมีลวดลายสวยงาม หาซื้อง่าย แต่ข้อเสียคือ ราคาแพง เพราะลวดลายสวยงาม ไม่ทนความชื้นยังมีโอกาสเป็นสนิมอยู่ต้องหมั่นดูแล ทาสีทับบ่อยๆ และไม่แข็งแรงคงทนเหมือนวัสดุเหล็ก สเตนเลส และอะลูมิเนียม แต่ข้อดีคือมีน้ำหนักที่เบามาก เหมาะสำหรับบ้านที่มีผู้สูงอายุ และเด็กสามารถเปิด-ปิดใช้งานง่าย
ควรเลือกรั้วบ้านแบบไหนดี เหล็ก VS อะลูมิเนียม อันไหนดีกว่า
การเลือกชนิดของรั้วบ้านนั้น ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับความพอใจของเจ้าของบ้านเป็นหลัก เพราะทั้งเหล็ก และอะลูมิเนียม ต่างก็เป็นวัสดุที่มีข้อดี และข้อเสียที่แตกต่างกัน แต่โดยส่วนตัวแล้ว แนะนำให้เลือกใช้แบบอะลูมิเนียมมากกว่า เพราะหากคำนึงถึงความใช้งาน และอายุการใช้งานแล้ว อะลูมิเนียมตอบโจทย์มากกว่า ทั้งน้ำหนักเบากว่า ทนทานต่อความร้อนความชื้น ไม่เป็นสนิมเหมือนเหล็ก แต่หากเจ้าของบ้านมีงบประมาณจำกัด ก็อาจจะเลือกวัสดุชนิดอื่นแทนก็ได้
รูปแบบประตูรั้วบ้านยอดนิยมมีแบบไหนบ้าง
หลังจากที่เลือกชนิดของรั้งบ้านแล้ว ต่อมาก็เป็นขั้นตอนการของเลือกแบบของประตูรั้ว ซึ่งประตูรั้วบ้านก็มีการแบ่งรูปแบบตามการใช้งานได้ ดังนี้
1. ประตูรั้วบ้านแบบบานเปิด
รูปแบบของประตูรั้วบ้านชนิดนี้ คือการทำบ้านเปิด-ปิดประตูรั้วแบบดึง-ผลักเข้าออกเพื่อใช้งาน ข้อดีคือใช้งานง่าย ติดตั้งง่าย แต่ข้อเสียคืออาจจะกินพื้นที่ เพราะต้องเว้นพื้นที่ขนาดใหญ่เหมือนเปิด-ปิดประตู ไม่เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่หน้าบ้านน้อย เพราะจะทำให้ไม่สามารถใช้พื้นที่หน้าบ้านไม่ได้ และหากใช้วิธีเปิดออกมาด้านนอก ก็อาจจะรบกวนเพื่อนบ้าน
2. ประตูรั้วบ้านแบบเลื่อน
ประตูรั้วชนิดนี้ส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบที่ค่อนข้างใช้แพร่หลาย สามารถพบเห็นได้คุ้นตา ลักษณะจะเป็นการเปิด-ปิดประตูแบบเลื่อนซ้อนราง ทำให้สามารถช่วยประหยัดพื้นที่มากกว่าบานเปิด แต่ข้อเสียของประตูรั้วบ้านแบบเลื่อนคือ จะสามารถเปิดใช้งานได้เพียงครึ่งเดียว ไม่สามารถเปิดใช้เต็มบานได้
3. ประตูรั้วบ้านแบบบานพับ หรือบานเฟี้ยม
ถือเป็นประตูรั้วบ้านที่ค่อนข้างตอบโจทย์การใช้งานที่สุด เพราะเป็นประตูที่ง่ายต่อการใช้งานมาก ลักษณะก็คือ จะเป็นประตูขนาดย่อยๆ เล็กๆ ประมาณ 3-6 พับ (ตามขนาดความกว้างของประตู) ขนาดเท่าๆ กัน ทุกบานจะมีข้อต่อ หรืออุปกรณ์ฟิตติ้งที่สามารถขยับ และหมุนได้ เวลาใช้งานเพื่อเปิดประตูก็จะใช้วิธีพับประตูแบบพับทบไปมา ตามขนาดประตูที่ต้องการใช้ จะเปิดหมดเลย หรือเปิดแค่บานเดียวก็ได้ และเวลาปิดก็ดึงคลี่ประตูออกเหมือนคลี่ใบพัด ทำให้สามารถใช้งานได้หลากรูปแบบ ไม่เปลืองพื้นที่ แต่ข้อควรระวังก็คือ ควรหาช่างที่ทำการติดตั้งให้ดี ต้องเป็นช่างที่มีความเชี่ยวชาญสูงเท่านั้น
4. ประตูรั้วบ้านอัตโนมัติ
เป็นประตูรั้วบ้านแบบไฟฟ้า คือการติดตั้งประตูแบบควบคุมด้วยรีโมต หรือสวิตช์ระยะไกล เวลาใช้งานก็กดเปิด ประตูก็จะถูกพับเก็บขึ้นด้านบน เวลาปิดก็จะคลี่ลงมาปิด ค่อนข้างสะดวกในการใช้งาน แต่ข้อเสียคือ ต้องใช้ไฟฟ้าเป็นตัวนำตลอดเวลา และไม่เหมาะกับการใช้งานเป็นประตูรั้วหลัก เพราะว่าการใช้พับขึ้นๆ ลงๆ บ่อยๆ จะทำให้เปลืองไฟ และประตูเสื่อมสภาพเร็ว จึงเหมาะสำหรับใช้เป็นประตูสำหรับโรงรถเท่านั้น และทางที่ดีควรจะทำระบบไฟฟ้าสำรองไว้ทุกครั้ง เพื่อป้องกันเวลาไฟดับจะได้สามารถใช้งานได้
การสร้างรั้วบ้านนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ และจำเป็นสำหรับเจ้าของบ้านทุกคน เพราะช่วยให้สามารถแสดงอาณาเขตของบ้านได้ ว่าเริ่มที่ตรงไหน และสิ้นสุดที่จุดไหน เพื่อจะได้สามารถอ้างสิทธิคุ้มครองตามกฎหมายได้ แต่อย่างไรก็ได้ตามสร้างรั้วนั้นก็ถือว่าเป็นการต่อเติมบ้านชนิดหนึ่ง ที่ก่อนเจ้าของบ้านจะสร้างต้องปฏิบัติ “กฎหมายควบคุมอาคาร” ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร กำหนดไว้เท่านั้น
เช่น รั้วบ้านจะต้องไม่สร้างติดกับกับที่สาธารณะส่วนร่วม และต้องไม่มีความสูงเกิน 10 เมตร ในกรณีที่สร้างรั้วติดถนนสาธารณะต้องมีความสูงของรั้วไม่เกิน 3 เมตร หากผิดการข้อกำหนดนี้จะต้องทำการยื่นขออนุญาตก่อสร้างก่อนเท่านั้น เพราะตามกฎหมายจะถือว่าเข้าข่ายเป็นอาคาร และจำเป็นต้องได้รับการอนุญาตก่อนลงมือสร้างเท่านั้น